วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560

ที่มาและความสำคัญของผักออร์แกนิก


     ผักออแกนิก (Organic) หรือที่บางคนจะสะกดด้วยคำว่า ผักออแกนิค, ผักออร์แกนิก, หรือว่าผักออร์แกนิค) ซึ่งมันก็เป็นผักอินทรีย์ชนิดหนึ่ง ที่มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก ลักษณะเด่นก็คือเวลาปลูกจะไม่มีการใช้สารเคมีใดๆ เลย เหมือนกับเติบโตขึ้นมาจากธรรมชาติ ผู้ที่ปลูกผักออแกนิกนี้ จะต้องมีการดัดแปลงสภาพต่างๆ เพื่อเลียนแบบธรรมชาติ ตั้งแต่ การใช้ปุ๋ยธรรมชาติในดิน มีการบำรุงรักษาดิน มีอากาศ ความชื้น น้ำ และอื่นๆ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักให้พืชออแกนิก เจริญเติบโตขึ้นมาให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด และเพราะต้องการความเอาใจใส่แบบนี้นี่เอง ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการปลูกสูง เพราะต้องใช้เวลาเพาะปลูกนาน เนื่องจากไม่ใช้สารเคมีเร่งให้มันโตเร็ว เมื่อผักออแกนิกนี้วางขายในตลาด ก็จะมีราคาแพง เพราะมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าพืชผักทั่วๆ ไป ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ต้องใช้เวลาปรับสภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงศัตรูพืชมาเบียดเบียน บางแห่งที่มีการปลูกผักออแกนิกถึงกับต้องกางมุ้งปลูกคอยประคบประหงม เหมือนลูกกันเลยทีเดียว แต่ไม่ว่าสวนไหน จะปลูกด้วยวิธีใดก็สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่มีการใช้สารเคมีระหว่างนั้นเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าจะมีศัตรูพืชอย่างหนอนและแมลงเข้ามารบกวนบ้าง ก็จะใช้ได้เพียง ยากับจัดศัตรูพืชที่มาจากธรรมชาติล้วนๆ จึงจะถือว่าเป็น “ผักออแกนิก” อย่างแท้จริง


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ความสำคัญผักออร์แกนิค






6 เคล็ดลับสำหรับมือใหม่หัดปลูกผักออร์แกนิค




6 เคล็ดลับสำหรับมือใหม่หัดปลูกผักออร์แกนิค





      กระแสการบริโภคผักออร์แกนิคกลายเป็นอีกหนึ่งกระแสของคนห่วงใยสุขภาพ จึงทำให้หลายๆ คนหันมาออร์แกนิคทานเองที่บ้าน โดยเลือกผักที่ทานบ่อยและสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู

     แสงแดด : การจะทำสวนผักให้งอกงามสมใจ แสงแดดถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เจ้าของแปลงปลูกจำเป็นต้องคำนึงถึง เพราะผักส่วนใหญ่ชื่นชอบแสงแดด อย่างน้อยก็ต้องมีแดดส่องในบริเวณแปลงปลูกผักประมาณวันละ 4- 8 ชั่วโมง
ขนาดพื้นที่สวน : สำหรับผู้เริ่มต้นแปลงปลูกผักควรมีพื้นที่ประมาณ 50 ตารางฟุต หรือบางคนใช้พื้นที่ 100 ตารางฟุต ซึ่งถือว่าเป็นสวนขนาดใหญ่ คำแนะนำคือคุณควรเริ่มต้นทำสวนผักออร์แกนิคของคุณในแบบไซส์เล็กก่อน เพราะคุณจะได้ดูแลผักของคุณได้อย่างทั่วถึง รวมถึงถ้าคุณใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ คุณอาจปลูกต้นไม้ขึ้นซ้อนกัน ซึ่งมันไม่ดีแน่
     ดินที่ดี : ดินที่ดี การทำให้ดินเป็นดินมีคุณภาพจะช่วยเพิ่มผลผลิตของผักในสวน โดยจากหน้าดินลงไปประมาณ 2-4 นิ้ว ให้เราบำรุงดินโดยใช้ใบไม้ ฟางคลุมหน้าดินและรดน้ำ
     ซื้อต้นไม้ : สำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำสวนผักออร์แกนิคควรปลูกผักไม่กี่ชนิด และไม่ควรตุนพันธุ์ผักไว้เยอะๆ ปลูกเฉพาะที่ตัวเองชอบทานเท่านั้น
     ปุ๋ย : ในปีๆ หนึ่ง คุณควรมีการปรับปรุงดินโดยการใส่ปุ๋ย ซึ่งคุณควรเติมแร่ธาตุให้ดินเพิ่มสเปกตรัมให้กับดิน โดยคุณอาจจะใส่เดือนละครั้งก็ได้
     จุลินทรีย์ : ปุ๋ยอีกชนิดที่เราแนะนำคือการใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ที่เกิดจากการหมักหัวเชื้อกับใบชา กากน้ำตาล เนื่องจากจุลินทรีย์มีความจำเป็นมากสำหรับการเพิ่มสารอาหารในดิน






ออร์แกนิค คืออะไร ทำไมต้องออร์แกนิค



     ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่า เราทุกคนต้องการมีสุขภาพดี ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อสุขภาพของเรา คือการเลือกรับประทานอาหาร อาหารที่มีให้เลือก ส่วนมากก็มีทั้งอาหารสด และอาหารสำเร็จรูป แล้วเราจะรู้ได้ยังไงครับ ว่าอาหารเหล่านั้นปลอดภัย มีคำ ๆ หนึ่งที่ปรากฎขึ้น เกี่ยวกับอาหารที่ปลอดภัย คือ อาหารออร์แกนิค




ออร์แกนิค คืออะไร

       อาหารออร์แกนิค คือกระบวนการทำเกษตรอินทรีย์ ที่การผลิต มาจากธรรมชาติ 100 % เมล็ดพันธ์ต้องไม่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม ไม่ใช้สารเคมีเพื่อเร่งการเจริญเติบโต ปล่อยให้มีการเจริญเติบโตเป็นไปโดยธรรมชาติ ทั้งยังส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อมอีกด้วย เพราะเมื่อเราเลิกใช้สารเคมี ดินก็จะเริ่มดี และมีไส้เดือนที่ส่งผลดีต่อดินกลับมา ส่งผลให้ผลผลิตมีคุณภาพดีตามไปด้วยครับ และนี่ คือที่มาของคำว่า ออร์แกนิค

ทำไมต้องออร์แกนิค

       สิ่งที่เราทานเข้าไปทุกวัน โดยที่เราไม่ได้ใส่ใจว่า มันจะส่งผลต่อสุขภาพหรือไม่ ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายของเราในระยะยาวครับ แต่ถ้าเราค่อย ๆ ปรับตัว ไม่ต้องทุกวันหรอกครับ ลองเลือกอาหาร ผัก ผลไม้ ที่ปลอดสารทานบ้างเป็นครั้งคราว ฝึกจนเริ่มชินในการเลือกรับประทาน ไม่นาน คุณก็จะเป็นคนที่ใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้นทีเดียว
       ถึงแม้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค จะมีราคาสูงกว่าผลิตภัณฑ์เดียวกันในท้องตลาด แต่ในแง่ของสุขภาพแล้ว ผมว่ามันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มครับ ดีซะอีก ที่เราจะได้รับประทานอย่างไม่ต้องกังวล ผลดีเกิดที่ใครครับ ก็ที่ตัวคุณเองยังไงล่ะ





ข้อดีของการปลูกผักออแกนิค


– ไม่ใช้สารเคมีใดๆ เลย เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารกระตุ้นสารเร่งเร่งการเจริญเติบโตต่างๆ ผักออแกนิกนั้นส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ หากมีการใช้สารเคมีก็ถือว่าไม่เป็นผักออแกนิกแล้ว โปรดจำไว้ว่าสิ่งที่เพาะปลูกลงบนแปลงจะมีพลังในการปกป้อง รักษาโรค และป้องกันแมลงด้วยตัวของเค้าเอง การจะปลูกผักให้แข็งแรง จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของผักที่ปลูกให้สูงขึ้นได้ การใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลง จะทำให้พลังหรือภูมิคุ้มกันในการต่อต้านโรคลดลงและเกิดโรคได้ง่าย แต่บางเจ้าจะมีการใช้สารเคมีเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่จำเป็น แบบนี้ก็อาจจะเรียกว่าเป็น “95% Organic” หรือจะกี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่ากันไป ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีป้ายบ่งบอกความเป็นออแกนิกไว้ 3 ระดับ คือ “100% Organic” (ธรรมชาติ 100%), “95% Organic” (ธรรมชาติ 95% ขึ้นไป เพราะใช้สารเคมีเพียงเล็กน้อยเท่าที่จำเป็น), และ “Made with Organic Ingredient (ธรรมชาติ 70% ขึ้นไป) ” แต่ถ้าต่ำกว่า 70% ก็จะไม่ถือว่าเป็นออแกนิก ซึ่งในต่างประเทศอย่างอเมริกาและแคนาดาจะมีป้ายบ่งบอกเปอร์เซ็นต์แบนี้ครับ เพราะผู้บริโภคจะค่อนข้างเลือก อาหารหรือผักที่เป็นธรรมชาติ 100% จะเป็นอะไรที่ขายดีมาก อาชีพอิสระทําที่บ้าน
– ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการผลิต ผักออแกนิกนอกจากจะมุ่งเน้นให้คนที่รับประทานมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างก็คือการลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะการใช้สารเคมีต่างๆ จะทำให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในอากาศ และในน้ำ ซึ่งสารพิษเหล่านี้กว่าจะสลายได้ก็ต้องใช้ระยะเวลานาน หรืออาจกินเวลาเป็นสิบๆ ปีเลยทีเดียวกว่าจะย่อยสลาย วิธีการปลูกผักแบบออแกนิกจึงเป็นหนทางที่ดีในการฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้ผักที่ไม่มีสารเคมีแล้ว ยังเป็นการช่วยลดมลพิษไปด้วยในตัวอีกด้วย 




ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ผักออแกนิกคืออะไร






ปลูกผักออแกนิคขาย! อาชีพอิสระทําที่บ้าน เป็นนายตัวเอง



     ช่วงนี้ อาชีพอิสระทําที่บ้าน อย่างปลูกผักออแกนิคขายกำลังมาแรง เห็นหลายๆท่านมองเห็นธุรกิจลาออกจากงานเพื่อมาทำ อาชีพอิสระทําที่บ้าน ของตนเองสำหรับแนวนี้โดยเฉพาะ หลายคนก็มีกำไรรายได้พอประมาณ พอใช้ แต่บางคนขายดีได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ เพราะสินค้าเพื่อสุขภาพกำลังแรง แน่นอนคนปัจจุบันรักสุขภาพกันทุกคน ถ้าสินค้าบริโภคตัวไหนพรีเซนต์ตัวเองว่าไม่ใช้สารเคมีแล้วแหละก็ ได้รับความสนใจอย่างแน่นอน เพราะข่าวสารในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึง รวมทั้งการนำเสนอข่าวสารก็มีความชัดเจนและน่าสนใจมากกว่าแต่ก่อน ทำให้คนปัจจุบันค่อนข้างเสพสารในส่วนของข่าวเยอะมาก และรับรู้ข้อมูลเชิงลึกได้มาก สามารถทำความเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ถึงทุกประเด็น โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพ เพราะปัจจุบันมีเรื่องของโรคร้ายเกิดขึ้นกับคนในสังคมเรามากขึ้นๆ บวกกับข่าวสารเกี่ยวกับคุณประโยชน์หรือสิ่งให้โทษแก่ร่างกายก็แพร่หลาย คนในปัจจุบันจึงกลัวปัญหาโรคร้ายจะเกิดขึ้นกับตนจึงหันมาใส่ใจในส่วนนี้ ก็เข้าทำนองที่ว่า “ไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ” นั่นเอง


ปลูกผักออแกนิคขาย อาชีพอิสระ


     ผักออร์แกนิค ตามกระแสรักสุขภาพ ไอเดียธุรกิจ จัดส่งถึงมือผู้บริโภคกำลังจ่ายสูง แล้วสินค้าอะไรบ้างล่ะที่จะตอบโจทย์คนรักสุขภาพเหล่านี้ได้ ? ก็อย่างที่รู้ๆ กันทั่วไปนั่นก็คือสินค้าที่ไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช้สิ่งต้องห้ามที่ให้โทษแก่ร่างกายนั่นเอง ผักออร์แกนิคก็ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่จัดอยู่ในหมวดนั้น และคนรักสุขภาพก็หันมาบริโภคกันมากขึ้น ทำให้ธุรกิจค้าผักออร์แกนิคมีเพิ่มขึ้นๆ เพื่อตอบโจทย์ความนิยมที่ค่อยๆ ขยายเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ และจะสามารถตอบสนองความต้องการในอนาคตได้อย่างทั่วถึง เพราะเชื่อว่าในอนาคตคนจะต้องการบริโภคผักออร์แกนิกกันมาก





วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560

ปุ๋ยตกค้างผักออแกนิกส์




บทความ_ปุ๋ยตกค้าง2




                                  





                                              
  ผักออแกนิกส์ ก็คือ การปลูกผักที่ไม่ใช้สารเคมีในทุกกระบวนการปลูก ผักเจริญเติบโตได้ ด้วย สารอาหาร+อ็อกซิเจน ที่อยู่ในดิน ซึ่งสารอาหารเหล่านี้เกิดจากการย่อยสลาย ของซากพืชซากสัตว์ โดยสารอาหารที่อยู่ในดินเหล่านี้ สามารถแยกเป็น N P K และอาหารเสริม ของพืช แต่โดยส่วนมาก สารอาหารที่อยู่ในดิน จะมี ธาตุ N (ไนโตเจน) ค่อนข้างต่ำ รวมทั้งอ็อกซิเจนในดิน ค่อนข้างไม่เพียงพอ ทำให้ผักที่ปลูกแบบออแกนิกส์ มีใบที่ค่อนข้างเหนียวๆ ไม่กรอบ เนื่องจาก ธาตุอาหาร N หรือไนโตเจน ไม่เพียงพอ และอูณหภูมิของดินสูงทำให้อ็อกซิเจนในดินต่ำ ผักที่ปลูกบนดิน จะไม่สู้แดด เหี่ยวเฉา ทั้ง ๆ ที่ธรรมชาติของผักจะชอบแดดค่อนข้างจัด



                ตัวอย่างผักสลัดออแกนิกส์ อีกทางเลือกของคนรักสุขภาพ
  

   บทความ_ปุ๋ยตกค้าง1



                                                                 
                                                                


     ผักไฮโดรโปนิกส์ หรือผักไร้ดิน คือ การปลูกผักที่ใช้ปุ๋ยเคมีเป็นสารอาหาร โดยที่การไหลเวียนของสารอาหารในระบบเกิดอ็อกซิเจนที่เพียงพอต่อการสังเคราะห์แสง ในสภาพแดดค่อนข้างจัด ซึ่งสารอาหารสะกัดมาจากธรรมชาติ ให้อยู่ในรูป N P K และอาหารเสริม ดังนั้น โดยวิธีการแล้ว การปลูกผักไร้ดิน ผักไร้ดิน จะเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ในสภาวะที่ สารอาหาร + อ็อกซิเจน มีปริมาณที่เพียงพอต่อ การสังเคราะห์แสง ในสภาวะที่แดดค่อนข้างจัด ดังนั้น คงไม่น่าแปลก ที่ ผักไร้ดิน จะมีรสชาติ และน้ำหนักที่ดีกว่าผักออแกนิกส์
                                                     


       บทความ_ปุ๋ยตกค้าง4



                  ผักสลัดไร้ดิน หรือผักสลัดไฮโดรโปนิกส์ ที่นำมาทดสอบวัดปุ๋ยตกค้าง (ไนเตรท)






ผักออร์แกนิคกับผักไฮโดรโปนิกส์ ต่างกันอย่างไร


      ก่อนอื่นเราอยากบอกว่าเราศึกษาเปรียบเทียบผักออร์แกนิคกับผักไฮโดรโปนิกส์มาสักพักแล้ว เพราะเนื่องจากเริ่มจะรักตัวเองมากขึ้น (เมื่อก่อนกินแต่จังก์ฟู้ด) และเรารู้สึกว่าหลายๆคนยังเข้าใจผิดระหว่าง ผักออร์แกนิคกับผักไฮโดรฯ จากที่เห็นตามร้านที่เค้าขายผักไฮโดรฯ ส่วนใหญ่จะบอกว่าเป็นผักปลอดสารพิษ ตอนแรกเราก็เข้าใจแบบนั้น เพราะรู้สึกว่ามันดูสะอาด น่ากิน ผักปลอดสารพิษต้องดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว แต่พอกลับมาลองศึกษาวิธีการปลูก แล้วเรารู้สึกว่า บางสิ่งบางอย่างเราก็เข้าใจผิดนะ เราก็เลยอยากแชร์ข้อมูลดีๆ ให้เพื่อนๆ จะได้ไม่เข้าใจผิดแบบเรา แต่ทั้งนี้เราไม่มีเจตนาจะว่าว่าผักไฮโดรฯไม่ดีนะ มันดีเหมือนกันแต่ดีคนล่ะแบบ


hkoip
                                           

      ผักไฮโดรฯ คือการปลูกโดยใช้น้ำเป็นองค์ประกอบหลักและใช้สารอาหารสำหรับพืชที่สร้างขึ้นมาด้วยสารสกัดทางเคมี ซึ่งเราจะดูว่ามันสะอาด และน่ากินมากกกกกก ราคาก็สูงนิดนึง แต่พอรับได้ แต่หารู้ไม่ว่า สารสกัดทางเคมี ที่เค้าใช้เนี่ยแหละคือ ปุ๋ยเคมี และที่บอกว่า ผักไฮโดรฯ ไม่ใช้ ยาฆ่าแมลง เพราะปลูก และดูแลอย่างดี (แน่ซิคุณไม่ใช้ยาฆ่าแมลงเพราะคุณใช้สารสกัดทางเคมีทำให้เจริญเติบโตนิ ไอ้เราก็เข้าใจผิด กินมาก็นาน T^T) แต่ผักไฮโดรฯ มันปลูกง่าย สะดวก สำหรับคนไม่มีพื้นที่ดิน ขนาดอยู่ อพาร์ทเม้นท์ ยังปลูกได้เลย



วิดีโอการปลูกผักออร์แกนิก




  









วิธีปลูกผักออร์แกนิก


5 ขั้นตอนวิธีปลูกผักออร์แกนิก

1 ขั้นตอนเตรียมดิน การเตรียมดินที่ดีจะช่วยทำให้ผลผลิตดีตามไปด้วย โดยวิธีการให้เตรียมหน้าดินประมาณ 2 – 4 นิ้ว และใช้ใบไม้ ฟางคลุมหน้าดินและรดน้ำ และใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในการบำรุงดิน และคลุกเคล้าให้ทั่ว รดน้ำให้ชุ่ม
วิธีการทำปุ๋ยหมักด้วยตนเอง
* เตรียมภาชนะขนาดความลึกประมาณ 3 ตารางฟุต
* ใส่ใบไม้แห้งแล้วโรยทับด้วยปุ๋ยคอก
* ใส่เศษอาหารหรือเศษผัก โดยมีความสูงไม่เกิน 30 เซนติเมตร
* โรยใบไม้แห้งให้มีความสูงประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร แล้วนำเศษอาหารมาโรยทับบางๆ อีกชั้น
* หาวัสดุมากดทับอัดให้แน่นมากที่สุดหมักทิ้งไว้ 30 วัน
* ครบกำหนดให้ใช้พลั่วตักปุ๋ยจากด้านล่างมาใช้งานโดยกลบด้านบนลงไป
2 นำกล้าผัก หรือเมล็ดพันธุ์ผักที่เตรียมไว้ลงดิน โดยวิธีการเลือกเมล็ดพันธุ์หรือต้นกล้า ต้องเลือกที่มีความแข็งแรง ไม่หมดอายุ เทคนิคของการใช้เมล็ดพันธุ์ในการปลูกคือ ก่อนการเพาะควรตรวจสอบเมล็ดพันธุ์ก่อน ด้วยการนำเมล็ดพันธุ์ไปโรยใส่ทิชชู่เปียก หลังจากนั้นให้นำทิชชู่เปียกมาโรยทับอีกที ทิ้งไว้ 3 – 4 วันถ้าเมล็ดงอกออกมาแปลว่ามีความสมบูรณ์ดี เมล็ดไม่ฝ่อ ใช้ปลูกได้
3 การดูแล การดูแลผักเพื่อให้เจริญเติบโตเป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญ ควรให้ความสำคัญกับการรดน้ำให้เหมาะสม สำหรับผักแต่ละชนิด รวมทั้งดูแลเรื่องแสงแดดและแมลงที่จะมารบกวน การรดน้ำควรรดที่หน้าดินดีกว่าการรดที่ใบ อีกทั้งควรหมั่นถอนวัชพืชด้วยมือ และหมั่นรดน้ำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ การไล่แมลงอาจจะเลือกใช้วิธีธรรมชาติ เช่น การปล่อยกบ คางคก จิ้งจง เพื่อมาคอยจับแมลง
4 การเก็บเกี่ยว ควรหมั่นตรวจสอบระยะเวลาการเก็บเกี่ยวผักแต่ละชนิดให้ดี อย่าปล่อยให้ร่วงคาต้น และควรเก็บเป็นช่วงเวลา เช่น โหระพาให้เก็บช่วงบ่าย เพราะช่วงนั้นใบจะสดน่ากิน เป็นต้น
5 การโละสวน การโละสวนคือการฟื้นฟูสภาพดินเพื่อปลูกพืชครั้งต่อไปเมื่อหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยว หรือต้นไม้หมดอายุแห้งเหี่ยว ได้แก่ การถอนต้นพืชออกให้หมด แล้วฝังกลบ แล้วเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมดินกันอีกครั้ง





ประโยชน์ของผักออร์แกนิก



  1. ทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี ไม่มีสารพิษตกค้าง และมีความปลอดภัยสูงต่อผู้บริโภค เนื่องจากผักออแกนิกเป็นผักแบบธรรมชาติล้วน ๆ 100% ส่วนประกอบทุกอย่างจึงมีความบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษต่าง ๆ ที่เป็นสารก่อมะเร็ง
  2. การบริโภคผักออแกนิก ในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำจะช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยได้ง่าย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
  3. ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้ เพราะผักออแกนิกจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มากกว่าพืชผักทั่วไป ซึ่งเป็นที่ยอมรับแล้วว่ามีส่วนการใช้ต่อต้านมะเร็ง
  4. ช่วยลดอัตราเสี่ยงเด็กสมองพิการ เด็กซนผิดปกติ และโรคออทิสติก เพราะสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์นั้นมีมากกว่า 100 ชนิด ที่เป็นสาเหตุของโรคดังกล่าว และการรับประทานผักออแกนิกยังเป็นผลดีแก่กับตัวคุณแม่เอง และยังช่วยทำให้น้ำนมของคุณแม่มีปริมาณของกรดไขมันที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงกว่าปกติ
  5. ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ายาฆ่าแมลงที่ตกค้างอยู่ในผักทั่วไป จะมีผลโดยตรงกับฮอร์โมนเพศและทำให้เซ็กส์เสื่อมได้ หากคุณไม่อยากเสี่ยงก็ควรหยุดรับประทานผักที่ใช้สารเคมีอีกเลย
  6. เมื่อเปรียบเทียบกับผักทั่วไปแล้ว ผักออแกนิกจะมีวิตามิน เกลือแร่ เอนไซม์ และสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณค่ามากกว่าผักทั่วไป (แต่บางข้อมูลระบุว่าปริมาณของวิตามินของพืชผัก ระหว่างการปลูกแบบออแกนิกและการปลูกโดยทั่วไปนั้นไม่มีความแตกต่างกัน (มีเพียงฟอสฟอรัสเท่านั้นที่ผักออแกนิกมีมากกว่าผักทั่วไป) แต่มันก็ยังดีกว่าใช่ไหมละครับที่เราจะไม่ได้รับสารพิษเข้าไปในร่างกายทุกวันจากการรับประทานผักทั่วไป เพราะ 1 ใน 3 ของผักที่ปลูกตามปกตินั้นตรวจพบยาฆ่าแมลง)
  7. รสชาติของผักออแกนิกจะดีกว่าผักที่ปลูกกันทั่วไป ถ้านึกไม่ออกให้ลองนึกถึงผลไม้ในฤดูกาลกับผลไม้นอกฤดูกาลที่ต้องใช้สารเคมี ว่าผลไม้แบบใดมีรสชาติที่ดีกว่า
  8. นอกจากจะเป็นผักที่ไม่มีสารพิษแล้ว กระบวนการเพาะปลูกต่าง ๆ ยังเป็นการช่วยลดมลพิษไปได้อีกด้วย เพราะการปลูกผักทั่วไปจะทำให้สารเคมีที่ใช้ป้องกันและกำจัดศัตรูพืชปนเปื้อนในดิน ในน้ำ และในอากาศ
  9. ช่วยฟื้นฟูสภาพดิน เนื่องจากการเกษตรแบบใช้สารเคมีนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าจะทำให้ดินเสื่อมคุณภาพและไม่มีคุณสมบัติที่ดีในการเพาะปลูก ทำให้ปลูกอะไรก็ไม่ได้ผลผลิตที่ดีตามต้องการ อีกทั้งผักที่ปลูกก็แทบจะไม่ได้คุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วนอย่างที่ควรจะเป็น
  10. ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีววิทยา เพราะการไม่ใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลงจะช่วยทำให้มีชีวิตในท้องถิ่นมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ และช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีววิทยาไปเรื่อย ๆ
  11. ช่วยทำให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกมีสุขภาพอนามัยที่ดีขึ้น เนื่องจากไม่มีการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย ทำให้เกษตรกรปลอดภัยจากสารเคมีเหล่านี้ได้
  12. ช่วยลดต้นทุนการผลิตในด้านค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยและสารเคมีต่าง ๆ และช่วยลดปริมาณการนำเข้าของสารเคมีจากต่างประทศ (ในแต่ละปีประเทศไทยมีการสั่งซื้อจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก)
  13. ผักออแกนิกทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่ายผักเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผลผลิตที่ได้เป็นที่ต้องการของตลาด เพราะเป็นผักที่มีคุณภาพดีและปลอดภัยจากสารพิษ จึงทำให้จำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้น